จริงหรือไม่? ถ้าเราปรึกษาจิตแพทย์ แล้วต้องกินยาตลอดชีวิต

“ไปหาจิตแพทย์ก็ต้องโดนจับกินยาไปตลอดชีวิต” หรือ “ยาจิตเวชเป็นยาเสพติด กินแล้วเดี๋ยวก็ติด” ประโยคเหล่านี้อาจเป็นเสียงในหัวที่คอยฉุดรั้งใครหลายคนไว้ ไม่ให้กล้าเดินเข้าไปรับการดูแลสุขภาพใจ ทั้งที่กำลังเผชิญกับความทุกข์จากภาวะเครียด, วิตกกังวล, หรือซึมเศร้า ความกลัวเหล่านี้คือ “กำแพง” ที่ทำให้หลายคนเลือกที่จะทน จนอาการส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตและการทำงานอย่างน่าเสียดาย บทความนี้จะขออาสามาทลายกำแพงความเชื่อผิดๆ และไขทุกข้อสงสัย เพื่อให้คุณเข้าใจเรื่องยาทางจิตเวชใหม่อีกครั้ง 

4 ความจริงเกี่ยวกับการใช้ยาทางจิตเวชที่ต้องรู้

ไม่ใช่ทุกเคสที่ต้อง “ใช้ยา” เสมอไป

หลายคนมักเข้าใจว่าการเดินเข้าไป ปรึกษาจิตแพทย์ เท่ากับการเซ็นสัญญารับยาไปกินตลอด แต่ความจริงแล้ว จิตแพทย์ไม่ได้จ่ายยาให้ทุกคน! การรักษาทางจิตเวชมีหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่การทำจิตบำบัด (Psychotherapy) การให้คำปรึกษา ไปจนถึงการปรับพฤติกรรม ยาเป็นเพียง “เครื่องมือ” หนึ่งที่จะถูกพิจารณาใช้ก็ต่อเมื่ออาการมีความรุนแรง ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันอย่างชัดเจน หรือเมื่อการรักษาด้วยวิธีอื่นไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร

ยาไม่ใช่ “ยาเสพติด” แต่คือ “ตัวปรับสมดุล”

ยาทางจิตเวชไม่ได้ออกฤทธิ์เพื่อให้คุณ “เมา” หรือ “มีความสุขแบบลอยๆ” แต่ทำหน้าที่สำคัญในการเข้าไป “ปรับสมดุลของสารสื่อประสาท” ในสมองที่กำลังทำงานผิดปกติให้กลับมาเป็นปกติ ลองนึกภาพตามง่ายๆ เหมือนผู้ป่วยเบาหวานที่ต้องใช้อินซูลินเพื่อควบคุมระดับน้ำตาล ยาทางจิตเวชก็ทำหน้าที่คล้ายกันในการแก้ไขความไม่สมดุลทางชีวภาพของสมอง และไม่ได้ทำให้เกิดการเสพติดเหมือนยาเสพติดแต่อย่างใด

เป้าหมายของการรักษาคือ “การหยุดยา” อย่างปลอดภัย

หัวใจสำคัญที่สุดคือ สำหรับโรคส่วนใหญ่ เช่น ซึมเศร้า หรือ วิตกกังวล แพทย์ไม่ได้วางแผนให้คุณกินยาไปตลอดชีวิต! ในทางกลับกัน เป้าหมายสูงสุดคือการทำให้คุณกลับมาแข็งแรงพอที่จะ “หยุดยา” ได้อย่างปลอดภัย โดยทั่วไป หลังจากอาการดีขึ้นแล้ว แพทย์มักจะให้ยาต่อเนื่องไประยะหนึ่ง (เช่น 6-12 เดือน) เพื่อป้องกันไม่ให้อาการกลับมาเป็นซ้ำ จากนั้นจึงจะเข้าสู่กระบวนการลดยาต่อไป

การ “ลดยา” ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น

เมื่อรู้สึกว่าตัวเองดีขึ้นแล้ว หลายคนอาจใจร้อนและอยากหยุดยาเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเด็ดขาด! การหยุดยากะทันหันอาจทำให้เกิดอาการถอนยา (Withdrawal symptoms) หรือทำให้อาการของโรคกำเริบกลับมาได้ กระบวนการที่ถูกต้องคือ แพทย์จะเป็นผู้ประเมินความพร้อมและค่อยๆ ปรับลดขนาดยาลงทีละน้อย (Tapering off) อย่างช้าๆ เพื่อให้ร่างกายและสมองได้ปรับตัว จนสามารถหยุดยาได้อย่างปลอดภัยในที่สุด

ปรึกษาจิตแพทย์ ต้องกินยาตลอดชีวิตไหม

สรุป

ความเชื่อที่ว่าการ ปรึกษาจิตแพทย์ แล้วต้องกินยาไปตลอดชีวิตนั้น “ไม่เป็นความจริง” การใช้ยาเป็นเพียงทางเลือกหนึ่งในการรักษา โดยมีเป้าหมายที่ชัดเจนคือการกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติและหยุดยาได้ในวันที่เหมาะสม การเปิดใจพูดคุยถึงแผนการรักษาและความกังวลใจกับแพทย์ คือกุญแจสำคัญที่สุดที่จะช่วยให้คุณข้ามผ่านความกลัวและเริ่มต้นดูแลสุขภาพใจได้อย่างยั่งยืน

 

ติดตามบทความดี ๆ โดยนักสุขภาพจิตและนักจิตวิทยาคลินิก Mental Well Clinic ได้ที่นี่ 

Mental Well Clinic คลินิกสุขภาพใจ พื้นที่ปลอดภัยของคนทุกช่วงวัย ดูแลจิตใจคุณและคนที่คุณรัก โดย ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพใจ แพทย์ นักจิตบำบัด นักศิลปะบำบัด นักจิตวิทยาคลินิก นักจิตวิทยาพัฒนาการ

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับทางเจ้าหน้าที่ และนัดเวลาเข้ามาปรึกษานักสุขภาพจิตได้ที่

Facebook : Mental Well Clinic
Tel : 091-599-3905
Line : @mentalwell.clinic

บทความเพิ่มเติม